เข้าสู่ระบบ
HEAD-2
HEAD-1
HEAD-3
mobile---2
mobile---1
mobile---3
previous arrow
next arrow

แอบดูความพร้อม ประเทศกาตาร์ เจ้าภาพบอลโลกจะปังหรือแป้ก?

มหกรรมกีฬาที่คนทั้งโลกต่างเฝ้ารอคอยนั่นคือ ฟุตบอลโลก2022 ที่จะจัดขึ้นในวันที่20 พฤศจิกายน 2565 ถึง18 ธันวาคม และสิ่งที่สำคัญคงไม่พ้นความพร้อมของเจ้าภาพอย่าง ประเทศกาตาร์ ที่ทุกสายตาทั่วโลกต่างจับจ้องถึงศักยภาพว่าจะปังหรือจะแปลก และเมื่อมันเป็นเกมฟุตบอลสิ่งที่ควรนึกถึงแรกๆก็คงไม่พ้นสนามงานนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาส่องสนามสุดอลังการที่จะใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อีกไม่นานเกินรอแล้ว สำหรับมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกต่างรอคอยนั่นก็การดูฟุตบอลโลกนั่นเอง

และครั้งที่จะมาถึงนี้ก็คือฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่จะจัดขึ้นในดินแดนแห่งเศรษฐีน้ำมันนั่นก็คือกาตาร์นั่นเองซึ่งมหกรรมดังกล่าวแม้ว่าภาพจะไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายและอยู่ในดินแดนทะเลทรายได้ด้วยความรวยแบบอภิมหาศาล ทำให้ชาติตะวันออกกลางอย่างกาตาร์สามารถทำในสิ่งที่หลายคนยังไม่คาดคิดได้ (ก็มีเงินนี่นะ) และที่สำคัญเป็นจุดเด่นเลยก็คือการปรับปรุงสนามเดิม และสร้างสนามใหม่เอี่ยมและไฮเทคสุดๆเพื่อให้เพียงพอรองรับแฟนบอลที่ชอบ ดูฟุตบอลโลก จากทั่วทุกมุมโลกที่จะหลั่งไหลเข้ามา

ฟุตบอลโลก2022

ประเทศกาตาร์ อัดฉีดไม่อั้นเพื่อความยิ่งใหญ่อลังการให้โลกตะลึง

ถึงตอนนี้สิ่งก่อสร้างสุดอลังการเพื่อรองรับ ฟุตบอลโลก2022 ที่มีอยู่มากมายหลายแห่งพร้อมระบบสาธารณูปโภคครบคลำก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ซึ่งสนามทั้งทุกแห่ง ก็อยู่ในรัศมี 55 กิโลเมตรจากกรุงโดฮานครหลวงของกาตาร์เพียบพร้อมไปด้วยขนส่งสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแฟนบอลในการเดินทางและมีทางเลือกเดินทางไปดูฟุตบอลโลกทั้งรถไฟฟ้าและรถรางหลายที่ สำคัญมากๆเลยก็คือพวกเขา ติดแอร์ครบทุกสนามจะได้ไม่ต้องบ่นว่าร้อน ก็ต้องไปดูแล้วเราชอบว่าสังเวียนทั้ง 8 แห่งมันจะอลังการงานสร้างขนาดไหนจะพร้อมกันแล้วก็ไปดูกันเลย

สนามแห่งแรก Khalifa International Stadium The National Stadium ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮาประเทศกาตาร์สร้างเสร็จในปี 2005 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 15 เมื่อปี 2006 เป็นที่รู้จักกันดีในนามสนามกีฬาแห่งชาติมักจะใช้จัดรายการใหญ่ๆอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อกาตาร์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกก็ทำกันรีโนเวทสนามแห่งนี้ขนานใหญ่เพื่องานนี้โดยเฉพาะหวังให้เป็นหน้าเป็นตาของประเทศและสร้างความประทับใจ ให้กับแขกผู้มา ฟุตบอลโลก2022 สนามแห่งนี้มีความจุ 45 ,416  ที่นั่ง และจะถูกใช้เป็นสนามนัดประเดิมอีกด้วยโดยอังกฤษจะพบกับอิหร่านเป็นนัดแรก

ประเทศกาตาร์ กับจุดเด่นของแต่ละสนามที่บ่งบอกเอกลักษณ์

ต่อมา Al Janoub Stadium นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ปรับปรุงใหม่เพื่อ ฟุตบอลโลก2022 เช่นเดียวกันกับสนามคารีฟาเลย สนามแห่งนี้ดีไซน์สวยงามมากโดดเด่น ที่ทางเจ้าภาพทุ่มงบประมาณแบบไม่อั้น นับล้านๆบาท เพื่อให้เป็นสนามที่ยอดเยี่ยมสมศักดิ์ศรีเจ้าภาพ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือของชาวกาตาร์นั่นเองและมีความไฮเทคสุดๆสามารถพับเก็บได้ระบบทำความเย็นติดแอร์ทั้งสนาม ซึ่งก็มีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่ง โดยจะใช้ประเดิมในวันที่ 22 พฤศจิกายนในเกมนักเตะแดนน้ำหอมฝรั่งเศสพบกับ นักเตะแดนจิงโจ้ออสเตรเลีย

สนามต่อมา Al Bayt Stadium  สนามแห่งนี้ถือว่าเป็นสนามใหม่เอี่ยมอ่องสุดไฮเทคไม่แพ้กัน โดยตั้งอยู่ในเมืองอัลกอร์ โดยดีไซน์ของสนามแห่งนี้ก็โดดเด่นไม่ซ้ำใครและได้รับแรงบันดาลใจมาจากเต็นท์ที่พักของชาวอาหรับนั่นเอง ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตะวันออกกลาง พร้อมกับหลังคาที่เปิดปิดพับเก็บได้ ซึ่งสนามแห่งนี้มีความจุอยู่ที่ 60,000 ที่นั่งเลยทีเดียว โดยจะเป็นสนามที่เจ้าภาพกาตาร์จะใช้ประเดิมแข้งกับเอกวาดอร์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนด้วย และตอนนี้มันพร้อมต้อนรับผู้ที่จะมา ดูฟุตบอลโลก จากทั่วสารทิศแล้ว

ฟุตบอลโลก2022

เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ เมื่อกาตาร์หวังสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ให้โลกจำ

ถัดมาอีกหนึ่งสนาม Ras Abu Aboud Stadium  สนามแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งก็คือสนามกีฬา 974 มาจากการที่สนามแห่งนี้ ก่อสร้างด้วยการนำตู้คอนเทนเนอร์รีไซเคิล 974 ตู้มาทำเป็นสนามฟุตบอล นับเป็นไอเดียที่สุดยอดมากๆ นี้จะใช้ในการแข่งขันในรอบแรกและรอบ 2 ทั้งหมด 6 นัดด้วยกัน หลังจากนั้นก็จะทำการรื้อถอนและนำไปใช้ทำโครงการอื่นๆถือว่าเป็นสนามชั่วคราวแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกเลยทีเดียว โดยสนามแห่งนี้เพิ่งจะเปิดใช้ในวันที่ 30 พฤศจิกายนปี 2020 นี่เองและก็มีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่ง

สนามแห่งต่อมาคือ Al Thumama Stadium ชื่อของสนามแห่งนี้ ได้มาจากพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่สวยงามมากๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบหมวกของชาวอาหรับที่นิยมใส่กันนั่นเอง โดยมีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่งและก็จะใช้ประเดิมนัดแรกในศึกฟุตบอลโลกที่ทีมจากแอฟริกาอย่างเซเนกัลจะพบกับนักเตะแดนกังหันลมเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสนามที่ให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจะเห็นได้ถึงความไฮเทคอลังการด้วยการทุ่มทุนทั้งเม็ดเงินและแรงงานแข่งขันกับเวลาสภาพอากาศที่ร้อนระอุของประเทศกาตาร์เพื่อให้ได้สิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับแฟนๆฟุตบอลโลก

ย้อนดูสถิติและเหตุการณ์ที่น่าสนใจของฟุตบอลโลก 2018 มีอะไรน่าสนใจบ้าง

ฟุตบอลโลกปี 2018 นั้น ก็ต้องเรียกว่าจบกันไปนานแล้วและหลายๆ คนนั้น อาจจะจดจ้องกันไปที่ ฟุตบอลโลก ที่จะถึงครั้งนี้ ที่กาตาร์กันแล้ว แต่ก็ต้องบอกเลยว่า ในปี 2018 นั้น นอกจากจะเป็นฟุตบอลโลกที่เป็นการจัดก่อนที่จะมีการระบาดอย่างรุนแรงของเชื่อไวรัสโควิด 19 แล้ว ยังมีสถิติที่น่าสนใจมากมาย นอกจากจะเป็นความสมหวังของทีมตราไก่ ที่สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จหลังจากการรอคอยมามากกว่า 20 ปี ก็นับตั้งแต่สมัยของ France 98 อันลือลั่นนั่นเอง และยังเป็นแชมป์สมัยที่สองของเขาอีกด้วย เรียกได้ว่ารอกันมานานจริงๆ

คำว่าสถิตินั้น จะบอกอะไรเราได้หลายๆอย่าง ซึ่งฟุตบอลสมัยใหม่นั้น สถิติมีความสำคัญมากในการนำมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้สำหรับอะไรหลายๆอย่าง เช่น สไตล์ของผู้จัดการทีม นักเตะที่น่าสนใจ มีรูปแบบการเล่นแบบไหนเมื่อเทียบกับการเล่นในระดับสโมสร ค่าเฉลี่ยการวิ่งของนักเตะในแต่ละนัดเป็นระยะทางเท่าไหร่ หรืออาจจะมองกันได้ถึงว่าผู้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะคว้าแชมป์นั้น เป็นทีมไหน

ฟุตบอลโลก 2022

สถิติน่าสนใจของฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน

เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น หลังจากที่ฝรั่งเศสรีดฟอร์มเก่งคว้า แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการทำประตูถล่มน้องใหม่โครเอเชีย ที่เพิ่งเคยเข้ารอบชิงชนะเลิศกันแบบม้ามืด เป็นครั้งแรกไป 4-2 แบบขาดลอยกันเลย ทำให้แฟนบอลที่ ดูบอลโลก และกองเชียร์ทีมตราหมากรุกผิดหวังกันไปน่าจะค่อนโลก รวมทั้งกองเชียร์ชาวไทยที่เรียกได้ว่าชื่นชอบเหลือเกินกับบอลรอง แต่ก็เหมือนอย่างที่หลายๆ คนเคยพูดไว้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล ตราบใดที่ยังไม่สิ้นเสียงนกหวีด และวันนี้เราขอรวบรวมสถิติเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2018 ว่าในครั้งนี้ได้เกิดเหตุการณ์ หรือตัวเลขอะไรที่น่าจดจำบ้าง…ทั้งน่าจดจำและไม่น่าจดจำ

คราวนี้มาถึงสถิติในแดนลบกันบ้าง ซึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากจะลืมก็เป็นได้

  1. อินทรีย์เหล็ก เป็นทีมที่ห่วยแตกที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ ! คำพูดนี้ไม่ได้เกินจริงกันไปเลยสำหรับแฟนบอลทีมอินทรีย์เหล็กชนิดเข้าเส้น เพราะเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เปลี่ยนเป็นระบบแบ่งกลุ่มมาที่ทีมอินทรีย์เหล็กจำต้องกระเด็นตกรอบแรกแบบเจ็บปวดที่สุด แม้กระทั่งนัดสุดท้ายก็ยังอุตส่าห์แพ้แม้กระทั่งเกาหลีใต้ ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว
  2. โอลิวิเย่ห์ ชีรูห์ เป็นกองหน้าระดับโลกอย่างไม่ต้องสงสัยในความสามารถ แต่เชื่อหรือไม่ ใครที่ ดูบอลโลก จะเห็นว่า ระดับกองหน้าทีมแชมป์โลกคนนี้ ไม่สามารถยิงประตูได้เลย แม้แต่ประตูเดียวก็ยังไม่มี!
  3. กลายเป็นโรคเรื้อรังกันไปเสียแล้วสำหรับ เดวิด เด เคอา ที่แสดงความผิดพลาดออกมาบ่อยมากสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ หลายๆครั้งเข้าก็ส่งทีมชาติสเปนกลับบ้านไปเสียด้วยเลย และความผิดพลาดนี้ก็ว่ากันว่าส่งผลให้ฟอร์มกับทีมปีศาจแดง ลุ่มๆดอนๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้ (ถึงแม้จะกระเตื้องขึ้นมาในช่วงหลังก็ตาม)
  4. ตำนานฟ้าขาวอย่างลีโอเนล เมซซี่ สามารถยิงได้เพียง 1 ประตู และยังไม่สามารถพาทีมไปถึงฝั่งฝันได้อีกครั้ง ก็หวังกันแบบจริงๆจังๆเลยว่า ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายนี้จะได้สมหวังกับถ้วยใบสุดท้ายเสียที
ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มวันไหน

ว่ากันด้วย สถิติที่เป็นประวัติศาสตร์

  1. เป็นครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยี VAR เข้ามาช่วยในการตัดสิน ถึงแม้จะมีเสียงบ่นออกมาตามหลังกันมากมายก็ตามว่า ทำให้เสน่ห์ของกีฬาฟุตบอลนั้น ลดน้อยลงไป แต่ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะฟุตบอลโลกนั้น อาจจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของหลายๆคน การตัดสินที่เที่ยงตรงจึงเป็นสิ่งที่ยังจำเป็นอยู่
  2. จากเทคโนโลยีข้อ 1 ทำให้ทีการแจกจุดโทษกันแบบมโหฬารถึง 29 ลูก มากกว่าบอลโลกครั้งไหนๆ และยังมีผลเสมอ 0-0 เพียง 1 นัดเท่านั้น
  3. มีการทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดคือ 12 ลูก เรียกได้ว่า เป็นการทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดตลอดกาล นับตั้งแต่ปี 1998 ที่มี own goal เพียงแค่ 6 ลูก มากกว่ากันเป็นครึ่งเลยทีเดียว

นับถอยหลังสู่ฟุตบอลโลก 2022

ก็นับว่าใกล้กันมาทุกทีกันแล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2022ที่ชนชาวโลกห่างหายกันไปนาน ก็นับว่าโชคดีว่าวิกฤการณ์จากเชื่อไวรัสที่ปกคลุมโลกมานานหลายปีนั้น มาคลี่คลายเอาทันเวลาพอดี หลายคนนั้นต่างก็ใจจดใจจ่อว่า ครั้งนี้จะมีเหตุการณ์หรือสถิติอะไรที่น่าสนใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ก็ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนกันอีกแล้ว เพราะถึงจะเตะกันดึก แต่ก็ไม่ดึกมากเท่าไหร่เหมือนกับการแข่งขันในย่านยุโรป

ดาวรุ่งสุดร้อนแรง ในบอลโลก 2022 ที่ว่ากันว่าฝีเท้าเยี่ยมที่สุดในปัจจุบัน

ว่ากันว่า ฟุตบอลโลกนั้น ไม่มีที่สำหรับนักฟุตบอลดาวรุ่ง เรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงก็ขึ้นอยู่กับกุนซือของแต่ละชาติที่จะหนีบนักเตะดาวรุ่งของชาตินั้นๆ ไปกาตาร์ด้วยหรือเปล่า เพราะว่ากันว่าทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆแบบนี้ ไม่มีที่สำหรับความผิดพลาด แต่เราก็เห็นกันดีอยู่แล้วว่า นักเตะรุ่นเก๋าบางคน บางครั้งก็แสดงความผิดพลาดแบบโง่ๆ จนนำไปสู่การเสียประตู ส่งผลความเสียหายอย่างหนักให้กับทีมได้ แต่สำหรับดาวรุ่งทั้งหลายล่ะ ทำไมพวกเขาจะไมได้รับโอกาสกัน ? เพราะอายุยังน้อย หรือระยะเวลาในการโชว์ฝีเท้าน้อยเกินไป

ยังพอมีเวลาสำหรับบรรดาผู้จัดการทีมที่จะเลือกเฟ้นเอานักฟุตบอลทั้งตัวหลักและตัวรองเข้าสู่แคมป์ทีมชาติในช่วงสุดท้าย ซึ่งบรรดานักเตะที่เป็นแคนดิเดตทีมชาติต่างก็ต้องเค้นเอาฝีเท้าชนิดที่ว่ามีเท่าไหร่ต้องปล่อยออกมาให้หมด ยังไม่นับไปถึงการต้องระวังอาการบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ากุนซือหลายๆคนมักจะต้องมองไปที่ตัวหลัก ตัวเก่าที่โชว์ฟอร์มกันได้คงเส้นคงวากันเอาไว้ก่อน บรรดาดาวรุ่งทั้งหลายก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่รองๆลงไป  แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า หลายๆทีมชาติมักจะใช้ดาวรุ่งเหล่านี้เป็นตัวทีเด็ดในการคว้าชัย เพราะต้องบอกว่า เรี่ยวแรงของหนุ่มๆนั้น ดีกว่าอย่างแน่นอน

ฟุตบอลโลก

นิยามของคำว่า ดาวรุ่ง

สำหรับคนที่ติดตาม ดูบอลโลก ก็ต้องว่ากันตรงๆ กันเลยว่า ดาวรุ่ง ก็คือ ผู้ที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ๆ ทั้งดาวรุ่งวงการบันเทิง ดาวรุ่งวงการเพลง และดาวรุ่งที่เราจะกล่าวกันในวันนี้ก็จะเป็นดาวรุ่งที่อยู่ในวงการฟุตบอล ซึ่งว่ากันว่า น่าจับตามองและอาจจะสามารถแจ้งเกิดกันได้ในฟุตบอลโลก 2022 นี้ หลังจากที่แจ้งเกิดกันในนามสโมสรกันแล้ว

ดาวรุ่งที่เป็นที่จับตามองนั้น ก็จะมีกันอยู่หลายคนจากหลายสโมสรกันไป หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกันนัก แต่เชื่อกันเถอะว่า ฝีเท้านั้น การันตีกันได้เลยเพราะอยู่ในทีมลำดับต้นๆตารางของแต่ละลีก

5 ดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2022

  1. จู๊ด เบลลิ่งแฮม  กองกลางโคตรเนื้อหอมจากเมืองผู้ดี แต่ขณะนี้ค้าแข้งอยู่กับเสือเหลือง โบรุสเซียร์ ดอร์ตมุน ที่ว่ากันว่า เป็นวันดอร์คิดที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ได้ร้อนแรงเฉพาะฟอร์มการเล่นเท่านั้น  ราคาค่าตัว และค่าเหนื่อยนั้นยังร้อนแรงแบบสุดๆกั นอีกด้วย ล่าสุด เสือเหลืองได้ตั้งค่าหัวของกองกลางตัวเก่งตัวนี้ไว้มากกว่า  100 ล้านยูโรกันเลยทีเดียว ฟุตบอลโลก ทั้งๆ ที่มีอายุเพียง 18 ปี ได้รับการคาดหมายว่าทีมเดียวที่จะสู้กับสนนราคานี้ได้ ก็น่าจะเป็นทีมรีลมาดริด แต่ก็ต้องบอกว่าไม่แน่เหมือนกัน เพราะหงส์แดงก็จ้องจะฉกไปอยู่ด้วยดีลการแลกตัวกับ นาบี เกอิตาร์ ซึ่งก็จะสามารถลดค่าตัวไปได้กว่า 50 ล้านปอนค์
  2. กาบี้ กองกลางเจ้าบุญทุ่ม เรียกได้ว่า ศูนย์กีฬา ลา มาเซีย ทำคลอดออกมาเองกันเลยทีเดียวสำหรับ กาบี้ ที่ไม่ต้องไปซื้อไปหากันที่ไหนเป็นผลผลิตและลูกหม้อของบาร์เซโลน่า ในปีนี้ได้ลงสนามแทบจะเป็นตัวจริงกันเลย ทั้งๆที่อายุเพียง 17 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งเท่านี้ก็มองกันได้ง่ายๆว่า เจ้าเด็กคนนี้ ก็จะต้องมีดีและกลายเป็นกำลังหลักของเจ้าบุญทุ่มกันไปแล้ว ซึ่งเจ้าหนูกาบี้ เป็นกองกลางที่มีพรสวรรค์สูง เรียกได้ว่านานๆ จะมาให้เห็นทีสำหรับนักฟุตบอลที่เก่งกาจ และอายุยังน้อย ราวกับหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงยังงั้น  สไตล์ก็ดันไปคล้ายคลึงกับ เซอร์บี้ เฮอร์นันเดซ โคตรกองกลางเจ้าบุญทุ่มอีกตัวหนึ่ง ที่กลายเป็นตำนานกองกลางไปแล้ว
  3. คาสเตลโล่ ลูเกบา หลายๆ คนที่ติดตาม ดูบอลโลก อาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่เชื่อได้เลยว่า ฟุตบอลลีก เอิง ฝรั่งเศส ถือได้ว่าเป็นสนามเลี้ยงเด็ก ที่สร้างดาวรุ่งขึ้นมามากมาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปค้าแข้งกันในสโมสรระดับเอลิสท์  และทางด้าน ดูเหมือนว่าจะเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของ ลียง หลังจากเขาก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 19 ปี เซนเตอร์ฮาร์ฟพรสวรรค์ตัวนี้ ก็เรียกได้เลยว่า มีทั้งความเร็ว ความอึด แรงปะทะ  ทั้งยังอ่านเกมได้อย่างเด็ดขาด ลูกลางอากาศก็เล่นได้ เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว
  4. เอดูอาร์โด้ คามาแว็งก้า เรียกได้ว่า ถนอมกันอย่างเป็นไข่ในหินกันเลยทีเดียว สำหรับกองกลางสารพัดประโยชน์ที่สามารถทำเกมได้หลากหลาย  สามารถเล่นได้หลายบทบาทไม่ว่าจะเป็น กองกลางตัวรับหน้าแผงกองหลัง, กองกลางสไตล์บ็อกซู ทู บอกซ์ หรือแม้แต่กองกลางตัวคุมเกม ซึ่งมาอยู่ในรังของราชันย์ชุดขาว ก็ไม่ต้องสงสัยกันเลยว่า จะประคบประหงมกันขนาดไหน ขณะเดียวกัน ดาวรุ่งตราไก่คนนี้  ยังทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1914 ที่เปิดตัวให้กับทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ ในปี 2020 ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้นเอง
ฟุตบอลโลก

ดาวรุ่ง : ดาบสองคม

เราก็เคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ว่า นักเตะหลายๆ คนที่นิวมาราโดน่า นิวเมซซี่ นิวเปเล่ และอีกหลายๆ คนที่แบกความหวังของแฟนบอล ดูบอลโลกฟรี เพราะในช่วงต้นๆ ของการค้าแข้ง หรือในสมัยที่เป็นนักเตะทีมเยาวชน แต่เมื่อเข้ามาอยู่สนามอาชีพเต็มตัวกลับทำผลงานไม่ได้อย่างที่หวัง และค่อยๆเลือนออกไปจากความทรงจำในที่สุด ซึ่งนักเตะที่อยู่ในข่ายนี้ก็มีกันอยู่หลายคน ซึ่งเราจะได้นำเสนอกันในบทความต่อๆไป

กูรูฟันธง ทีมเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ไหนตรงใจคุณบ้าง?

ก็ต้องเรียกได้ว่าเป็นธรรมดากันแล้ว สำหรับมหกรรม ฟุตบอลโลก 2022 แต่ละครั้งที่จะต้องจัดอันดับทีมเต็งจ๋า ว่ามีทีมอะไรบ้าง แน่นอน หลายๆ คนอาจจะตั้งข้อสังเกตกันได้เลยว่า มักจะเป็นหน้าเก่าๆ กันทั้งนั้น สำหรับทีมเต็งแชมป์ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ซึ่งก็จะแล้วแต่ว่า จะจัดอันดับกันช่วงไหน จัดกันอย่างไร เอาอะไรมาวัดกันบ้าง  ซึ่งอันดับนั้น ถึงแม้จะเป็นหน้าเก่าๆ เจ้าเดิมๆ แต่ก็จะดูกันได้เลยว่าจะมีการสลับตำแหน่งกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งจากนี้ไปอีกไม่ถึง 2 เดือนกันแล้วก็จะเริ่มเตะกัน ซึ่งก็จะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่อาจจะทำให้ทีมเต็งแชมป์เปลี่ยนหน้าไป หรืออาจจะเป็นทีมนอกกระแสก็เป็นได้

การจัดอันดับ ตั้งแต่ก่อนแข่งกันไม่กี่เดือนนี้ ก็ต้องเรียกว่า จัดเต็มกันได้เลยเพราะทุกทีมนั้น ก็ยังมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นเจ้าแห่งฟุตบอลโลกในปี 2022 ได้หมด แต่ต้องบอกเลยว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก มักจะไม่ค่อยมีม้ามืดก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์กันมากนัก ถึงแม้จะมีการพลิกล็อคกันบ้างในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงรอบลึกๆ ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าของทีมระดับเกรดเอ ทีมฟุตบอลหลายๆ ทีมที่เป็นทีมรองบ่อน ก็มีอันต้องเสร็จกันไปทุกราย ไม่เหมือนกันกับบอลยูโร หรือทีมจำพวกชิงแชมป์ระดับทวีป ที่มักจะมีทีมที่นอกสายตา คว้าแชมป์กันอยู่เสมอ

ฟุตบอลโลก 2022

ส่องจาก ทำเนียบแชมป์โลกห้าครั้งหลังสุด

ถ้าเราจะเปิดทำเนียบแชมป์บอลโลกมาทั้งหมดนั้น ดูบอลโลก แน่นอนทุกคนก็จะนึกถึงอย่างแน่นอนกับทีมแซมบ้า บราซิล ที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 5 สมัยด้วยกัน แต่การคว้าแชมป์โลกนั้น ทั้งหมด 5 สมัยสุดท้าย ทีมแซมบ้าคว้ามาได้เพียงสมัยเดียว จากนั้นก็เป็นประเทศ อิตาลี ซึ่งในบทความนี้ จะไม่มีชื่อของชาตินี้อยู่ในโผแน่นอนเพราะขุนพลอัซซูรี่นั้น ไม่ผ่านรอบคัดเลือกในรอบเพลย์ออฟ  จากนั้น ก็จะเป็นทีมชาติสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส ตามลำดับ จะเห็นได้เลยว่า ถึงแม้จะเป็นหน้าเดิมๆจากยุคเก่าๆแต่ก็มีการผลัดเปลี่ยนกันตลอดเวลาในยุคหลัง ไม่มีใครที่ผูกขาดกันเลย

เปิดโผตัวเต็งแชมป์โลก 2022

จากการจับสลากแบ่งสายนั้น ก็จะทำให้เรามองภาพได้ชัดขึ้นว่า ทีมไหนที่จะมีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์โลกได้บ้าง  งานหนัก งานเบา กรุ๊ปไหนอ่อน กลุ่มไหนแข็ง ก็จะมีปัจจัยในการจัดอันดับเช่นเดียวกัน

  1. บราซิล อดีตแชมป์ 5 สมัย ซึ่งพร้อมที่จะทวงถ้วยนี้คืนหลังจากที่ห่างหายกันไปหลายต่อหลายปี ซึ่งยอมรับเลยรับกันเลยว่าทีมชาติแซมบ้าชุดนี้ คับคั่งกันไปด้วยนักเตะระดับเอลิสท์ที่คุณภาพคับแก้ว ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งกองหน้า กองกลาง กองหลัง แม้กระทั่งผู้รักษาประตูก็ยังเป็นโกล์เกรดเอกันทั้งสองคน จึงจัดอันดับกันไม่ยากเลยสำหรับทีมบราซิลที่จะเต็งจ๋าแบบนอนมากันทุกโผ การที่อยู่ร่วมสายกับ สวิตเซอร์แลนด์, เซอร์เบีย และแคเมอรูน ก็ถูกมองว่าจะเข้ารอบไปเป็นที่ 1 ฟุตบอลโลก 2022  ได้แบบสบายๆ
  2. เยอรมัน เป็นทีมที่มีมาตรฐานสูงพอสมควร เข้าชิงมากที่สุด สำหรับใครที่ยังติดภาพทีมชาติอินทรีย์เหล็กเมื่อสี่ปีที่แล้วก็ต้องขอแนะนำให้สลัดภาพเหล่านั้นออกไปก่อน เพราะทีมชาติเยอรมันยุคใหม่นี้เป็นส่วนผสมของดาวรุ่งพุ่งแรงและดาวเตะวัยเก๋าเข้าด้วยกัน ฮันซี่ ฟลิค รับประกันคุณภาพ แต่ก็ประมาทไม่ได้เหมือนกัน เพราะเพื่อนร่วมสายนั้น ก็มีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดากันเลยคือ สเปน, ญี่ปุ่น และคอสตาริก้า
  3. ฝรั่งเศส ว่ากันว่า ฝรั่งเศส นั้น รับประกันการเข้ารอบแน่นอนด้วยการอยู่ร่วมสายกับทีมที่ไม่แข็งมากอย่าง ฝรั่งเศส เดนมาร์ก, ตูนีเซีย และเปรู ทั้งยังการันตีฝีเท้าด้วยนักเตะระดับโลก คีเรียน เอ็มบัปเป้ และอุสมาน เดมเบเล่ กองกลางมีปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ถ้าไม่พลิกล็อคฟ้าถล่ม ตกรอบแรกแบบหลายครั้งที่ผ่านมา เราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆจากทีมตราไก่ในรอบลึกๆ ก็เป็นได้
  4. สเปน ทีมที่ติดมาทุกโผลในช่วงปีหลังๆ นี้ ดูบอลโลก เพราะขุนพลทีมชาติสเปนนั้น ถ้าฝีเท้าดีๆ ก็จะเล่นกันในประเทศซะส่วนใหญ่ ความเข้าขากันจึงไม่ต้องพูดถึงกันเลย ถึงแม้มาตรฐานจะตกลงไปเล็กน้อยในระยะหลังนี้ เพราะเป็นฝ่ายปราชัยกับทีมระดับรองบ่อนอยู่บ่อยครั้ง ก็เพราะขุนพลในยุคทองนั้น ต่างก็ทยอยรีไทร์ออกไปกันจนหมดเช่น นเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดส, เชส ฟาเบรกาส, เฟร์นานโด ตอร์เรส และอีกหลายๆคน ก็ต้องเรียกว่า อย่าลืมถึงว่าจะมีนักเตะเด่นๆในยุคหลังเข้ามาแทนที่อย่าง เปดรี้, กาบรี้ การอยู่สายเดียวกับเยอรมันทำให้ต้องมาวัดกันเลยว่าใครจะแน่กว่ากันในรอบแรก แต่ก็อย่าประมาทตัวสอดแทรกอย่าญี่ปุ่นและคอสคาริก้า ที่พร้อมจะชิงเอาตั๋วเข้ารอบที่สองไปได้เสมอ
ฟุตบอลโลก 2022

ทีมมหาชน ไม่ติดโผ?

ทีมมหาชนในที่นี้ เราก็จะหมายถึงทีมชาติอังกฤษ ฟุตบอลโลก ทีมที่ว่ากันว่า มีแฟนบอลมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในรอบคัดเลือก แต่ในช่วงบอลเนชั่นลีก ก็ดันเตะกันแบบไม่เอาอ่าว เนื่องเพราะปัญหาการไม่ลงตัวของการจัดทีม แต่ถ้าทางด้านแกเร็ต เซาท์เกต เคลียร์ทุกอย่างได้อย่างลงตัวล่ะก็ ทีมชาติอังกฤษก็พร้อมที่จะเป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน

คาสิโนออนไลน์ เว็บตรง

สุดยอดเว็บคาสิโนออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่เปิดให้บริการโดยทีมงานมืออาชีพพร้อมซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง

คาสิโนออนไลน์เว็บตรง