มหกรรมกีฬาที่คนทั้งโลกต่างเฝ้ารอคอยนั่นคือ ฟุตบอลโลก2022 ที่จะจัดขึ้นในวันที่20 พฤศจิกายน 2565 ถึง18 ธันวาคม และสิ่งที่สำคัญคงไม่พ้นความพร้อมของเจ้าภาพอย่าง ประเทศกาตาร์ ที่ทุกสายตาทั่วโลกต่างจับจ้องถึงศักยภาพว่าจะปังหรือจะแปลก และเมื่อมันเป็นเกมฟุตบอลสิ่งที่ควรนึกถึงแรกๆก็คงไม่พ้นสนามงานนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาส่องสนามสุดอลังการที่จะใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อีกไม่นานเกินรอแล้ว สำหรับมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกต่างรอคอยนั่นก็การดูฟุตบอลโลกนั่นเอง
และครั้งที่จะมาถึงนี้ก็คือฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่จะจัดขึ้นในดินแดนแห่งเศรษฐีน้ำมันนั่นก็คือกาตาร์นั่นเองซึ่งมหกรรมดังกล่าวแม้ว่าภาพจะไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายและอยู่ในดินแดนทะเลทรายได้ด้วยความรวยแบบอภิมหาศาล ทำให้ชาติตะวันออกกลางอย่างกาตาร์สามารถทำในสิ่งที่หลายคนยังไม่คาดคิดได้ (ก็มีเงินนี่นะ) และที่สำคัญเป็นจุดเด่นเลยก็คือการปรับปรุงสนามเดิม และสร้างสนามใหม่เอี่ยมและไฮเทคสุดๆเพื่อให้เพียงพอรองรับแฟนบอลที่ชอบ ดูฟุตบอลโลก จากทั่วทุกมุมโลกที่จะหลั่งไหลเข้ามา
ถึงตอนนี้สิ่งก่อสร้างสุดอลังการเพื่อรองรับ ฟุตบอลโลก2022 ที่มีอยู่มากมายหลายแห่งพร้อมระบบสาธารณูปโภคครบคลำก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ซึ่งสนามทั้งทุกแห่ง ก็อยู่ในรัศมี 55 กิโลเมตรจากกรุงโดฮานครหลวงของกาตาร์เพียบพร้อมไปด้วยขนส่งสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแฟนบอลในการเดินทางและมีทางเลือกเดินทางไปดูฟุตบอลโลกทั้งรถไฟฟ้าและรถรางหลายที่ สำคัญมากๆเลยก็คือพวกเขา ติดแอร์ครบทุกสนามจะได้ไม่ต้องบ่นว่าร้อน ก็ต้องไปดูแล้วเราชอบว่าสังเวียนทั้ง 8 แห่งมันจะอลังการงานสร้างขนาดไหนจะพร้อมกันแล้วก็ไปดูกันเลย
สนามแห่งแรก Khalifa International Stadium The National Stadium ตั้งอยู่ที่กรุงโดฮาประเทศกาตาร์สร้างเสร็จในปี 2005 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 15 เมื่อปี 2006 เป็นที่รู้จักกันดีในนามสนามกีฬาแห่งชาติมักจะใช้จัดรายการใหญ่ๆอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อกาตาร์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกก็ทำกันรีโนเวทสนามแห่งนี้ขนานใหญ่เพื่องานนี้โดยเฉพาะหวังให้เป็นหน้าเป็นตาของประเทศและสร้างความประทับใจ ให้กับแขกผู้มา ฟุตบอลโลก2022 สนามแห่งนี้มีความจุ 45 ,416 ที่นั่ง และจะถูกใช้เป็นสนามนัดประเดิมอีกด้วยโดยอังกฤษจะพบกับอิหร่านเป็นนัดแรก
ต่อมา Al Janoub Stadium นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ปรับปรุงใหม่เพื่อ ฟุตบอลโลก2022 เช่นเดียวกันกับสนามคารีฟาเลย สนามแห่งนี้ดีไซน์สวยงามมากโดดเด่น ที่ทางเจ้าภาพทุ่มงบประมาณแบบไม่อั้น นับล้านๆบาท เพื่อให้เป็นสนามที่ยอดเยี่ยมสมศักดิ์ศรีเจ้าภาพ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือของชาวกาตาร์นั่นเองและมีความไฮเทคสุดๆสามารถพับเก็บได้ระบบทำความเย็นติดแอร์ทั้งสนาม ซึ่งก็มีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่ง โดยจะใช้ประเดิมในวันที่ 22 พฤศจิกายนในเกมนักเตะแดนน้ำหอมฝรั่งเศสพบกับ นักเตะแดนจิงโจ้ออสเตรเลีย
สนามต่อมา Al Bayt Stadium สนามแห่งนี้ถือว่าเป็นสนามใหม่เอี่ยมอ่องสุดไฮเทคไม่แพ้กัน โดยตั้งอยู่ในเมืองอัลกอร์ โดยดีไซน์ของสนามแห่งนี้ก็โดดเด่นไม่ซ้ำใครและได้รับแรงบันดาลใจมาจากเต็นท์ที่พักของชาวอาหรับนั่นเอง ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตะวันออกกลาง พร้อมกับหลังคาที่เปิดปิดพับเก็บได้ ซึ่งสนามแห่งนี้มีความจุอยู่ที่ 60,000 ที่นั่งเลยทีเดียว โดยจะเป็นสนามที่เจ้าภาพกาตาร์จะใช้ประเดิมแข้งกับเอกวาดอร์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนด้วย และตอนนี้มันพร้อมต้อนรับผู้ที่จะมา ดูฟุตบอลโลก จากทั่วสารทิศแล้ว
ถัดมาอีกหนึ่งสนาม Ras Abu Aboud Stadium สนามแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งก็คือสนามกีฬา 974 มาจากการที่สนามแห่งนี้ ก่อสร้างด้วยการนำตู้คอนเทนเนอร์รีไซเคิล 974 ตู้มาทำเป็นสนามฟุตบอล นับเป็นไอเดียที่สุดยอดมากๆ นี้จะใช้ในการแข่งขันในรอบแรกและรอบ 2 ทั้งหมด 6 นัดด้วยกัน หลังจากนั้นก็จะทำการรื้อถอนและนำไปใช้ทำโครงการอื่นๆถือว่าเป็นสนามชั่วคราวแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกเลยทีเดียว โดยสนามแห่งนี้เพิ่งจะเปิดใช้ในวันที่ 30 พฤศจิกายนปี 2020 นี่เองและก็มีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่ง
สนามแห่งต่อมาคือ Al Thumama Stadium ชื่อของสนามแห่งนี้ ได้มาจากพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่สวยงามมากๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบหมวกของชาวอาหรับที่นิยมใส่กันนั่นเอง โดยมีความจุอยู่ที่ 40,000 ที่นั่งและก็จะใช้ประเดิมนัดแรกในศึกฟุตบอลโลกที่ทีมจากแอฟริกาอย่างเซเนกัลจะพบกับนักเตะแดนกังหันลมเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสนามที่ให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจะเห็นได้ถึงความไฮเทคอลังการด้วยการทุ่มทุนทั้งเม็ดเงินและแรงงานแข่งขันกับเวลาสภาพอากาศที่ร้อนระอุของประเทศกาตาร์เพื่อให้ได้สิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับแฟนๆฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลกปี 2018 นั้น ก็ต้องเรียกว่าจบกันไปนานแล้วและหลายๆ คนนั้น อาจจะจดจ้องกันไปที่ ฟุตบอลโลก ที่จะถึงครั้งนี้ ที่กาตาร์กันแล้ว แต่ก็ต้องบอกเลยว่า ในปี 2018 นั้น นอกจากจะเป็นฟุตบอลโลกที่เป็นการจัดก่อนที่จะมีการระบาดอย่างรุนแรงของเชื่อไวรัสโควิด 19 แล้ว ยังมีสถิติที่น่าสนใจมากมาย นอกจากจะเป็นความสมหวังของทีมตราไก่ ที่สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จหลังจากการรอคอยมามากกว่า 20 ปี ก็นับตั้งแต่สมัยของ France 98 อันลือลั่นนั่นเอง และยังเป็นแชมป์สมัยที่สองของเขาอีกด้วย เรียกได้ว่ารอกันมานานจริงๆ
คำว่าสถิตินั้น จะบอกอะไรเราได้หลายๆอย่าง ซึ่งฟุตบอลสมัยใหม่นั้น สถิติมีความสำคัญมากในการนำมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้สำหรับอะไรหลายๆอย่าง เช่น สไตล์ของผู้จัดการทีม นักเตะที่น่าสนใจ มีรูปแบบการเล่นแบบไหนเมื่อเทียบกับการเล่นในระดับสโมสร ค่าเฉลี่ยการวิ่งของนักเตะในแต่ละนัดเป็นระยะทางเท่าไหร่ หรืออาจจะมองกันได้ถึงว่าผู้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะคว้าแชมป์นั้น เป็นทีมไหน
เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น หลังจากที่ฝรั่งเศสรีดฟอร์มเก่งคว้า แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการทำประตูถล่มน้องใหม่โครเอเชีย ที่เพิ่งเคยเข้ารอบชิงชนะเลิศกันแบบม้ามืด เป็นครั้งแรกไป 4-2 แบบขาดลอยกันเลย ทำให้แฟนบอลที่ ดูบอลโลก และกองเชียร์ทีมตราหมากรุกผิดหวังกันไปน่าจะค่อนโลก รวมทั้งกองเชียร์ชาวไทยที่เรียกได้ว่าชื่นชอบเหลือเกินกับบอลรอง แต่ก็เหมือนอย่างที่หลายๆ คนเคยพูดไว้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล ตราบใดที่ยังไม่สิ้นเสียงนกหวีด และวันนี้เราขอรวบรวมสถิติเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2018 ว่าในครั้งนี้ได้เกิดเหตุการณ์ หรือตัวเลขอะไรที่น่าจดจำบ้าง…ทั้งน่าจดจำและไม่น่าจดจำ
ก็นับว่าใกล้กันมาทุกทีกันแล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2022ที่ชนชาวโลกห่างหายกันไปนาน ก็นับว่าโชคดีว่าวิกฤการณ์จากเชื่อไวรัสที่ปกคลุมโลกมานานหลายปีนั้น มาคลี่คลายเอาทันเวลาพอดี หลายคนนั้นต่างก็ใจจดใจจ่อว่า ครั้งนี้จะมีเหตุการณ์หรือสถิติอะไรที่น่าสนใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ก็ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนกันอีกแล้ว เพราะถึงจะเตะกันดึก แต่ก็ไม่ดึกมากเท่าไหร่เหมือนกับการแข่งขันในย่านยุโรป
ว่ากันว่า ฟุตบอลโลกนั้น ไม่มีที่สำหรับนักฟุตบอลดาวรุ่ง เรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงก็ขึ้นอยู่กับกุนซือของแต่ละชาติที่จะหนีบนักเตะดาวรุ่งของชาตินั้นๆ ไปกาตาร์ด้วยหรือเปล่า เพราะว่ากันว่าทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆแบบนี้ ไม่มีที่สำหรับความผิดพลาด แต่เราก็เห็นกันดีอยู่แล้วว่า นักเตะรุ่นเก๋าบางคน บางครั้งก็แสดงความผิดพลาดแบบโง่ๆ จนนำไปสู่การเสียประตู ส่งผลความเสียหายอย่างหนักให้กับทีมได้ แต่สำหรับดาวรุ่งทั้งหลายล่ะ ทำไมพวกเขาจะไมได้รับโอกาสกัน ? เพราะอายุยังน้อย หรือระยะเวลาในการโชว์ฝีเท้าน้อยเกินไป
ยังพอมีเวลาสำหรับบรรดาผู้จัดการทีมที่จะเลือกเฟ้นเอานักฟุตบอลทั้งตัวหลักและตัวรองเข้าสู่แคมป์ทีมชาติในช่วงสุดท้าย ซึ่งบรรดานักเตะที่เป็นแคนดิเดตทีมชาติต่างก็ต้องเค้นเอาฝีเท้าชนิดที่ว่ามีเท่าไหร่ต้องปล่อยออกมาให้หมด ยังไม่นับไปถึงการต้องระวังอาการบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ากุนซือหลายๆคนมักจะต้องมองไปที่ตัวหลัก ตัวเก่าที่โชว์ฟอร์มกันได้คงเส้นคงวากันเอาไว้ก่อน บรรดาดาวรุ่งทั้งหลายก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่รองๆลงไป แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า หลายๆทีมชาติมักจะใช้ดาวรุ่งเหล่านี้เป็นตัวทีเด็ดในการคว้าชัย เพราะต้องบอกว่า เรี่ยวแรงของหนุ่มๆนั้น ดีกว่าอย่างแน่นอน
สำหรับคนที่ติดตาม ดูบอลโลก ก็ต้องว่ากันตรงๆ กันเลยว่า ดาวรุ่ง ก็คือ ผู้ที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ๆ ทั้งดาวรุ่งวงการบันเทิง ดาวรุ่งวงการเพลง และดาวรุ่งที่เราจะกล่าวกันในวันนี้ก็จะเป็นดาวรุ่งที่อยู่ในวงการฟุตบอล ซึ่งว่ากันว่า น่าจับตามองและอาจจะสามารถแจ้งเกิดกันได้ในฟุตบอลโลก 2022 นี้ หลังจากที่แจ้งเกิดกันในนามสโมสรกันแล้ว
ดาวรุ่งที่เป็นที่จับตามองนั้น ก็จะมีกันอยู่หลายคนจากหลายสโมสรกันไป หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกันนัก แต่เชื่อกันเถอะว่า ฝีเท้านั้น การันตีกันได้เลยเพราะอยู่ในทีมลำดับต้นๆตารางของแต่ละลีก
เราก็เคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ว่า นักเตะหลายๆ คนที่นิวมาราโดน่า นิวเมซซี่ นิวเปเล่ และอีกหลายๆ คนที่แบกความหวังของแฟนบอล ดูบอลโลกฟรี เพราะในช่วงต้นๆ ของการค้าแข้ง หรือในสมัยที่เป็นนักเตะทีมเยาวชน แต่เมื่อเข้ามาอยู่สนามอาชีพเต็มตัวกลับทำผลงานไม่ได้อย่างที่หวัง และค่อยๆเลือนออกไปจากความทรงจำในที่สุด ซึ่งนักเตะที่อยู่ในข่ายนี้ก็มีกันอยู่หลายคน ซึ่งเราจะได้นำเสนอกันในบทความต่อๆไป
ก็ต้องเรียกได้ว่าเป็นธรรมดากันแล้ว สำหรับมหกรรม ฟุตบอลโลก 2022 แต่ละครั้งที่จะต้องจัดอันดับทีมเต็งจ๋า ว่ามีทีมอะไรบ้าง แน่นอน หลายๆ คนอาจจะตั้งข้อสังเกตกันได้เลยว่า มักจะเป็นหน้าเก่าๆ กันทั้งนั้น สำหรับทีมเต็งแชมป์ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ซึ่งก็จะแล้วแต่ว่า จะจัดอันดับกันช่วงไหน จัดกันอย่างไร เอาอะไรมาวัดกันบ้าง ซึ่งอันดับนั้น ถึงแม้จะเป็นหน้าเก่าๆ เจ้าเดิมๆ แต่ก็จะดูกันได้เลยว่าจะมีการสลับตำแหน่งกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งจากนี้ไปอีกไม่ถึง 2 เดือนกันแล้วก็จะเริ่มเตะกัน ซึ่งก็จะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่อาจจะทำให้ทีมเต็งแชมป์เปลี่ยนหน้าไป หรืออาจจะเป็นทีมนอกกระแสก็เป็นได้
การจัดอันดับ ตั้งแต่ก่อนแข่งกันไม่กี่เดือนนี้ ก็ต้องเรียกว่า จัดเต็มกันได้เลยเพราะทุกทีมนั้น ก็ยังมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นเจ้าแห่งฟุตบอลโลกในปี 2022 ได้หมด แต่ต้องบอกเลยว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก มักจะไม่ค่อยมีม้ามืดก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์กันมากนัก ถึงแม้จะมีการพลิกล็อคกันบ้างในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงรอบลึกๆ ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าของทีมระดับเกรดเอ ทีมฟุตบอลหลายๆ ทีมที่เป็นทีมรองบ่อน ก็มีอันต้องเสร็จกันไปทุกราย ไม่เหมือนกันกับบอลยูโร หรือทีมจำพวกชิงแชมป์ระดับทวีป ที่มักจะมีทีมที่นอกสายตา คว้าแชมป์กันอยู่เสมอ
ถ้าเราจะเปิดทำเนียบแชมป์บอลโลกมาทั้งหมดนั้น ดูบอลโลก แน่นอนทุกคนก็จะนึกถึงอย่างแน่นอนกับทีมแซมบ้า บราซิล ที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 5 สมัยด้วยกัน แต่การคว้าแชมป์โลกนั้น ทั้งหมด 5 สมัยสุดท้าย ทีมแซมบ้าคว้ามาได้เพียงสมัยเดียว จากนั้นก็เป็นประเทศ อิตาลี ซึ่งในบทความนี้ จะไม่มีชื่อของชาตินี้อยู่ในโผแน่นอนเพราะขุนพลอัซซูรี่นั้น ไม่ผ่านรอบคัดเลือกในรอบเพลย์ออฟ จากนั้น ก็จะเป็นทีมชาติสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส ตามลำดับ จะเห็นได้เลยว่า ถึงแม้จะเป็นหน้าเดิมๆจากยุคเก่าๆแต่ก็มีการผลัดเปลี่ยนกันตลอดเวลาในยุคหลัง ไม่มีใครที่ผูกขาดกันเลย
จากการจับสลากแบ่งสายนั้น ก็จะทำให้เรามองภาพได้ชัดขึ้นว่า ทีมไหนที่จะมีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์โลกได้บ้าง งานหนัก งานเบา กรุ๊ปไหนอ่อน กลุ่มไหนแข็ง ก็จะมีปัจจัยในการจัดอันดับเช่นเดียวกัน
ทีมมหาชนในที่นี้ เราก็จะหมายถึงทีมชาติอังกฤษ ฟุตบอลโลก ทีมที่ว่ากันว่า มีแฟนบอลมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในรอบคัดเลือก แต่ในช่วงบอลเนชั่นลีก ก็ดันเตะกันแบบไม่เอาอ่าว เนื่องเพราะปัญหาการไม่ลงตัวของการจัดทีม แต่ถ้าทางด้านแกเร็ต เซาท์เกต เคลียร์ทุกอย่างได้อย่างลงตัวล่ะก็ ทีมชาติอังกฤษก็พร้อมที่จะเป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน
สุดยอดเว็บคาสิโนออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่เปิดให้บริการโดยทีมงานมืออาชีพพร้อมซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง